Intel หยุดจ้างงานชั่วคราวส่งผลกระทบต่อแผนก PC และlaptop
เนื่องจากว่าในขณะนี้หลายประเทศกำลังเจอวิกฤติปัญหาเงินเฟ้อซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่มาจากการเกิดสงครามระหว่างประเทศยูเครนกับประเทศรัสเซียนอกจากนี้บางประเทศยังได้รับผลกระทบมาจากปัญหาการล็อกดาวน์ในประเทศจีนเนื่องจากมาตรการควบคุมเรื่องของการระบาดไวรัสโควิด
ส่งผลทำให้บริษัทหลายบริษัทได้รับผลกระทบอย่างหนักตามไปด้วยและหนึ่งในนั้นก็คือบริษัท Intel ที่ได้มีการออกมาประกาศว่าจะขอมีการระงับการตั้งงานเป็นการชั่วคราวโดยตำแหน่งที่มีการแจ้งระงับการจ้างชั่วคราวนั้นเป็นตำแหน่งสำคัญภายในบริษัทซึ่งมีการระบุว่าอย่างน้อย 2 สัปดาห์ที่จะไม่มีการจ้างงานให้พนักงานเหล่านั้นได้ทำงาน
อย่างที่เรารู้กันดีว่าบริษัทอินเทลนั้นเป็นบริษัทที่ผลิตรายใหญ่ของโลก ในการผลิตชิปเซ็ตเมื่อมีการหยุดจ้างงานในตำแหน่งที่สำคัญภายในบริษัทนั่นหมายถึงว่ามีผลเกี่ยวเนื่องมาจากการผลิต ชิปเซ็ต โดยตรงนั้นเอง ซึ่งมันไม่สามารถที่จะทำการผลิต chipset ได้สิ่งที่ตามมาก็คือผลกระทบต่อแผนกเครื่อง PC และ laptop นั่นเอง
อย่างไรก็ตามการที่บริษัท Intel ได้มีการประกาศหยุดจ้างงานใหม่เป็นการชั่วคราวนั้น ได้มีการระบุสาเหตุเอาไว้ว่าทางบริษัท Intel
นั้นต้องการที่จะลดต้นทุนของการบริหารงานในช่วงเวลานี้ที่หลายประเทศกำลังเจอวิกฤตของภาวะเงินเฟ้อและสงครามบริษัท Intel ไม่ได้เพียงแค่ทำการหยุดจ้างานเป็นการชั่วคราวเพียงอย่างเดียวเท่านั้นแต่ยังมีการปรับรถไม่ให้มีการเดินทางแบบกลุ่มอีกด้วย
ซึ่งถือได้ว่าเป็นการหั่นงบประมาณไม่ให้พนักงานนั้นทำการใช้งบประมาณของทางบริษัทในการเดินทางจัดงาน รวมถึงจัดกิจกรรมสัมมนาต่างๆร่วมกันแต่เน้นให้เปลี่ยนรูปแบบของการทำงานมาเป็นระบบออนไลน์แทนนั่นหมายถึงว่าหากมีการสัมมนาหรือ ดูบอลสด ประชุมกันก็สามารถประชุมเป็นแบบ Video Conference ได้ซึ่งสามารถที่ประชุมกันได้เป็นกลุ่มจำนวนหลายคนพร้อมกัน
อย่างไรก็ตามจากปัญหาภาวะเศรษฐกิจโลกที่กำลังมีขึ้นอยู่ในขณะนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อบริษัท Intel บริษัทเดียวเท่านั้นที่มีการหยุดจ้างานใหม่เป็นการชั่วคราวแต่ยังมีบริษัทอื่นๆที่ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกันและก็ได้มีนโยบายในลักษณะเดียวกันกับบริษัท Intel ไม่ว่าจะเป็นบริษัทเคสตาร์หรือแม้แต่บริษัทไมโครซอฟท์หรือเมตาเองก็ตาม
เมื่อบริษัท Intel ได้มีการหยุดการจ้างงานเป็นการชั่วคราวก็จะมีผลกระทบต่อการผลิตเครื่อง PC และ laptop ในการนำออกมาจำหน่ายซึ่งก็จะไปกระทบต่อรายได้และกำไรของบริษัทในไตรมาสที่ 2 ประจำ ปีพ.ศ. 2565 นี้เช่นเดียวกัน ซึ่งผลกระทบจะมากหรือน้อยแค่ไหนนั้นคงต้องรอการแจ้งผลประกอบการในไตรมาศที่สองออกมา