เรื่องราวที่เรากำลังจะพูดถึงในวันนี้เป็นเรื่องราว ที่เกี่ยวข้องกับเรือดำน้ำ เรือดำน้ำที่มีขนาดใหญ่ ถึงแม้ว่าจะเป็นตัวที่มีขนาดใหญ่และแน่นอนว่าประสิทธิภาพในการทำงานของมันนั้น จะมีมากมายแค่ไหนแต่ว่าเรือดำน้ำต่างๆเหล่านี้ก็สามารถที่จะเกิดข้อผิดพลาดได้อยู่ตลอดเวลา
เช่นเดียวกันกับหายนะสำหรับเรือดำน้ำที่สร้างความเสียหายมากที่สุดในประวัติศาสตร์โลก ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวนี้เป็นเหตุการณ์ที่ใครหลายคนต่างก็ไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย
วันที่ 12 สิงหาคม ปี ค.ศ 2000 บาห์เรนทางตอนเหนือ ของรัสเซียนอกชายฝั่ง เขตปกครองกองเรือภาคพื้นทะเลเหนือ เริ่มการฝึกซ้อมรบซัมเมอร์ส ปฏิบัติการซ้อมรบครั้งใหญ่ที่สุดของกองทัพเรือรัสเซีย ซึ่งมีเรือเข้าร่วมถึง 30 ลำ และหนึ่งในจำนวนซึ่งเข้าร่วมซ้อมรบครั้งนี้ ก็ คือ เรือดำน้ำนิวเคลียร์ชั้นออกัสรหัส K-141 Kursk มีความยาว 154 เมตร
พร้อมลูกเรือจำนวน 118 คน เข้าประจำการในกองเรือนี้มาตั้งแต่ปีค.ศ 1994 แต่ระหว่างฝึกซ้อมรบกับเกิดเหตุไม่คาดฝัน เมื่อเรือเกิดระเบิดขึ้นจากลูกแรกลุกลามไปยังลูก อื่น ๆ แรงระเบิดรุนแรงเท่ากับระเบิด TNT ขนาด 6 ตัน และฉีกโครงสร้างด้านในของเรือ ออกไม่เป็นชิ้นดีเรือเสียการควบคุม และจมดิ่งสู่ก้นทะเลที่ความลึก 108 เมตร
แรงระเบิดทำลายห้องปฏิบัติการ 3 ส่วนแรกโดยสูญเสียลูกเรือ 23 คน ในจำนวน 118 คน รอดชีวิตอยู่ในส่วนที่ 9 ขณะดำน้ำ ยิงลงกระแทกพื้นทะเล
มีข่าวลือในหมู่ครอบครัว ของลูกเรือว่า เรือจมลงแต่ไม่มีการบอกสาเหตุ บอกเพียงเรือประสบปัญหา ไม่สามารถลอยตัวขึ้นมาบนผิวน้ำได้ ทำให้หลายชาติได้อาสาส่งความช่วยเหลือ มายังรัสเซียแต่ทว่ารัสเซียปฏิเสธความช่วยเหลือโดยสิ้นเชิง ทั้งยังกล่าวอ้างว่า kursk จมลงเพราะชนเรือดำน้ำของอเมริกา
ซึ่งล้อมเข้ามาจับตาดูการซ้อมรบครั้งนี้ จึงการต่างชาติไม่ให้เข้ามายุ่งเกี่ยว และพยายามปฏิบัติการช่วยเหลือลูกเรือด้วยกำลังของตนเอง แต่ด้วยความไม่พร้อมในหลายๆด้าน ปฏิบัติการช่วยเหลือของทางรัสเซีย จึงล้มเหลวซ้ำซ้อน ตามกระแสความไม่พอใจอย่างรุนแรง ในหมู่ครอบครัวของลูกเรือ และในสังคมรัสเซียและท้ายที่สุดเวลาผ่านไปนานกว่า 5 วัน หลังจากความล้มเหลว
ในการพยายามช่วยลูกเรือของตนเอง อีก 4 วันหลังจากการตอบรับความช่วยเหลือ จากต่างชาติ สิ่งที่พบ มีเพียงศพของลูกเรือ ที่เคยรอดชีวิต จบชีวิตลงในคอมพาสเม้น 9 ที่อยู่ท้ายเรือ ซึ่งถูกน้ำท่วมมิด และพวกเขารวมตัวรอความช่วยเหลือกันอยู่ ที่ก้นทะเลส่วนสาเหตุเกิดจากความเสื่อมโทรม จากอายุการใช้งานของเรือ
จึงทำให้เคสโลหะ ซึ่งเชื้อเพลิงไฮโดรเจน เปอร์ออกไซด์รั่ว เชื้อเพลิงรั่วไหลออกมาจนเกิดการระเบิดภายหลัง พบซากเรือดำน้ำ kursk ขึ้นมาจากก้นทะเลแล้วจะเห็นได้ถึงร่องรอยความเสียหายที่เกิดจากแรงระเบิด
สนับสนุนโดย. สมัคร gclub ไม่มีขั้นต่ำ